หลังจากตกลงที่จะใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน เมื่อปลายปี 2554 จึงทำให้ผมและแฟนตัดสินใจหาข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการแต่งงาน โดยผมก็อาศัยข้อมูลจากหลายๆ เว็บไซต์
เช่น Wedding Square, Pantip เป็นต้น ซึ่งมีประโยชน์มากมายสำหรับเรา
ดังนั้น ผมจึงตั้งใจทำรีวิวต่างๆ นี้ขึ้น เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์จริงที่ได้มาให้เป็นประโยชน์แก่คนอื่นๆ ต่อไป
การเตรียมการแต่งงานนั้นจะถือว่าขั้นตอนเยอะ วุ่นวาย ก็ไม่ใช่เลยซะทีเดียว จะว่าง่ายก็ไม่เชิง เอาเป็นว่าถ้ามีการวางแผนกันดีๆ เรื่องยากก็ทำให้ง่ายได้เช่นกัน แม้จะหลายขั้นตอนหน่อย
ขั้นตอนแรก คือ การหารือและตกลงร่วมกันทั้งฝ่ายเจ้าบ่าวเจ้าสาว เพื่อสู่ขออย่างเป็นทางการ เรื่องสินสอด และรูปแบบของงาน จะเป็นการนัดทานข้าวกัน หรือ นั่งพูดคุยกันอย่างเป็นทางการก็ได้นะครับ แล้วแต่สะดวกเลย
ต่อมาต้องลงรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรูปแบบของงานให้ชัดเจนยิ่งขึ้น เช่น พิธีหมั้น พิธีฉลองจัดวันเดียวกัน หรือ แยกวัน มีพิธีสงฆ์มั้ย มีพิธียกน้ำชามั้ย ต้องการงานเล็กๆ เฉพาะคนสนิท หรือจัดงานที่สโมสร หรือร้านอาหารได้มั้ย เป็นต้น
ซึ่งขั้นตอนนี้ผมว่าต้องคุยกันให้เคลียร์ แชร์ความต้องการของแต่ละฝ่าย เพราะการแต่งงานอาจจะไม่ใช่แค่คน 2 คนตัดสินใจนะครับ บางครั้งครอบครัวแต่ละฝ่ายก็เป็นตัวแปรสำคัญในการตัดสินใจ เอาเป็นว่าการปรึกษาผู้ใหญ่เป็นสิ่งที่ดี เพราะบางครั้งเราอาจจะมองหรือคาดไม่ถึงในบางเรื่องก็ได้นะครับ
ส่วนผมค่อนข้างจะสบายๆ ตรงที่บ้านเจ้าสาวไม่ได้มีพิธีรีตรองอะไรมาก ขอแค่จัดแบบโต๊ะจีน เพื่อความสะดวกเท่านั้น จะพิธีหมั้น พิธีฉลองจัดวันเดียวกัน หรือ แยกวัน ก็ได้ และแล้วก็ตกลงกันว่าจะจัดพิธีหมั้น ช่วงเช้า และจัดเลี้ยงฉลองช่วงเย็น วันเดียวกันเลย จะได้เหนื่อยทีเดียว
ดังนั้น สิ่งแรกก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะจัดแบบไหน ผมใช้วิธีการวางแผนเรื่องงบประมาณ ซึ่งผมกับแฟนมีความเห็นตรงกันว่าจัดงานแบบพอดีๆ ไม่เกินตัว ซึ่งทางครอบครัวทั้ง 2 ฝ่ายไม่ขัดข้อง จึงตั้งใจว่าจะจัดงานที่สโมสร ไม่จัดโรงแรม เพราะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย จึงทำให้ตัดช้อยส์เรื่องโรงแรมออกไป
ฤกษ์แต่งงาน ผมใช้วิธีดูจากปฏิทินจีน โดยเลือกวันที่เป็นวันธงชัย และเป็นวันที่เราทั้ง 2 คน รวมทั้งครอบครัวไม่ชงกัน แต่ต้องเป็นวันเสาร์ หรือวันอาทิตย์ จนสุดท้ายมาสรุปได้เป็นวันเสาร์ที่ 22 กันยายน 2555 ซึ่งตรงกับเดือนเกิดของแฟนด้วย และเลขสวยใช้ได้เลยทีเดียว ;)
สถานที่งานเช้า ผมเลือกที่โรงพยาบาลสงฆ์ เพราะเห็นว่าอยากจะทำบุญใหญ่ เพื่อเป็นสิริมงคลในการที่เริ่มต้นชีวิตคู่ ซึ่งเราไปจองสถานที่ในช่วงเดือน กุมภาพันธ์ 2555
ขอบอกว่าโรงพยาบาลสงฆ์เป็นสถานที่ยอดฮิตมากๆ ต้องมีการจองล่วงหน้าอย่างน้อย 4 – 6 เดือน (ผมแต่งเดือน 9 ไปจองตอนเดือน 2 ยังจองพิธีมงคลสมรสเดี่ยว (เพล) ไม่ทันเลยครับ) และที่สำคัญต้องไปจองเอง ไม่มีการรับจองทางโทรศัพท์ จองปุ๊ปจ่ายเงินปั๊ป จากนั้นก็ไม่ต้องติดต่ออะไรจนถึงวันงานเลยครับ (สบายมาก 555) ส่วนการรีวิวอย่างละเอียดจะรีวิวในตอนถัดไปนะครับ
สถานที่งานเย็น หรือ งานเลี้ยงฉลองมงคลสมรส ผมเลือกที่นันทอุทยานสโมสร กองทัพเรือ (เยื้องโรงพยาบาลธนบุรี ซอยอิสรภาพ 44) หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นหอประชุมกองทัพเรือ ตรงวัดอรุณ ซึ่งไม่ใช่นะครับ
แล้วผมก็ฟลุคจริงๆครับ ผมโชคดีมากๆ ที่คนจองคิวที่ 1 ไว้ขอยกเลิก ทางนันทอุทยานสโมสรจึงโทรศัพท์มาแจ้งผมว่าได้สถานที่เรียบร้อยแล้วให้เข้ามาคุยรายละเอียด และทำการมัดจำ ผมเลยรีบจัดการในทันที 555
ข้อดีของนันทอุทยานสโมสร คือ ห้องจัดเลี้ยง ชั้น 2 เพดานสูงโล่ง สวย เหมือนห้องจัดเลี้ยงในโรงแรม ที่จอดรถเยอะ เดินทางไม่ยากนัก และที่สำคัญการคิดราคาอาหารแบบเหมารวมเป็นโต๊ะๆ เช่น โต๊ะจีนราคาโต๊ะ 4,000 บาท (อาหารโต๊ะจีน+เครื่องดื่ม ไม่รวมแอลกอฮอล์+ตกแต่งสถานที่) ซึ่งเป็นราคาที่เบ็ดเสร็จไม่มีการคิดเพิ่มนั่นเพิ่มนี่ครับ หายห่วง สบายใจได้
จึงมัดจำไป 30% ของราคาทั้งหมดโดยคิดตามจำนวนโต๊ะ จากนั้นก็มีการนัดเพื่อมาชิมอาหาร (ประมาณ 4 – 5 อย่าง ไม่คิดเงินเพิ่มนะครับ) และเลือกรูปแบบซุ้มครับ ซึ่งรสชาติอาหารใช้ได้ และการจัดซุ้มก็ดูโอเคดีครับ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก ==> http://www.weddingsquare.com/185/
พรีเว็ดดิ้ง ผมไปดูมา 2 – 3 ร้าน แต่ยังไม่ถูกใจ จนสุดท้ายมาได้ร้านพรีเว็ดดิ้งที่เพื่อนป.โทใช้ ซึ่งอยู่แถวพุทธมณฑลสาย 4 คือ ร้าน Bestlovewedding แพ็คเกจราคาไม่แรงมาก มีทุกอย่างครบตามที่ต้องการ และที่สำคัญช่างแต่งหน้าทำผมฝีมือดีเลยครับ ยอมรับในฝีมือเค้าจริงๆ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก ==> http://www.bestloveweddingstudio.com/
Presentation และเพลงที่เปิดในงาน ผมกับแฟนทำ Presentation เองอย่างง่ายๆ ด้วยการใช้รูปภาพมาร้อยเรียงกันตามเพลงที่เลือก ซึ่งสามารถทำได้ด้วยตัวเองผ่านโปรแกรมที่สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีจากอินเตอร์เน็ต เช่น ProShowGold เป็นต้น
ดังนั้น ผมจึงตั้งใจทำรีวิวต่างๆ นี้ขึ้น เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์จริงที่ได้มาให้เป็นประโยชน์แก่คนอื่นๆ ต่อไป
การเตรียมการแต่งงานนั้นจะถือว่าขั้นตอนเยอะ วุ่นวาย ก็ไม่ใช่เลยซะทีเดียว จะว่าง่ายก็ไม่เชิง เอาเป็นว่าถ้ามีการวางแผนกันดีๆ เรื่องยากก็ทำให้ง่ายได้เช่นกัน แม้จะหลายขั้นตอนหน่อย
ขั้นตอนแรก คือ การหารือและตกลงร่วมกันทั้งฝ่ายเจ้าบ่าวเจ้าสาว เพื่อสู่ขออย่างเป็นทางการ เรื่องสินสอด และรูปแบบของงาน จะเป็นการนัดทานข้าวกัน หรือ นั่งพูดคุยกันอย่างเป็นทางการก็ได้นะครับ แล้วแต่สะดวกเลย
ต่อมาต้องลงรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรูปแบบของงานให้ชัดเจนยิ่งขึ้น เช่น พิธีหมั้น พิธีฉลองจัดวันเดียวกัน หรือ แยกวัน มีพิธีสงฆ์มั้ย มีพิธียกน้ำชามั้ย ต้องการงานเล็กๆ เฉพาะคนสนิท หรือจัดงานที่สโมสร หรือร้านอาหารได้มั้ย เป็นต้น
ซึ่งขั้นตอนนี้ผมว่าต้องคุยกันให้เคลียร์ แชร์ความต้องการของแต่ละฝ่าย เพราะการแต่งงานอาจจะไม่ใช่แค่คน 2 คนตัดสินใจนะครับ บางครั้งครอบครัวแต่ละฝ่ายก็เป็นตัวแปรสำคัญในการตัดสินใจ เอาเป็นว่าการปรึกษาผู้ใหญ่เป็นสิ่งที่ดี เพราะบางครั้งเราอาจจะมองหรือคาดไม่ถึงในบางเรื่องก็ได้นะครับ
ส่วนผมค่อนข้างจะสบายๆ ตรงที่บ้านเจ้าสาวไม่ได้มีพิธีรีตรองอะไรมาก ขอแค่จัดแบบโต๊ะจีน เพื่อความสะดวกเท่านั้น จะพิธีหมั้น พิธีฉลองจัดวันเดียวกัน หรือ แยกวัน ก็ได้ และแล้วก็ตกลงกันว่าจะจัดพิธีหมั้น ช่วงเช้า และจัดเลี้ยงฉลองช่วงเย็น วันเดียวกันเลย จะได้เหนื่อยทีเดียว
ดังนั้น สิ่งแรกก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะจัดแบบไหน ผมใช้วิธีการวางแผนเรื่องงบประมาณ ซึ่งผมกับแฟนมีความเห็นตรงกันว่าจัดงานแบบพอดีๆ ไม่เกินตัว ซึ่งทางครอบครัวทั้ง 2 ฝ่ายไม่ขัดข้อง จึงตั้งใจว่าจะจัดงานที่สโมสร ไม่จัดโรงแรม เพราะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย จึงทำให้ตัดช้อยส์เรื่องโรงแรมออกไป
ฤกษ์แต่งงาน ผมใช้วิธีดูจากปฏิทินจีน โดยเลือกวันที่เป็นวันธงชัย และเป็นวันที่เราทั้ง 2 คน รวมทั้งครอบครัวไม่ชงกัน แต่ต้องเป็นวันเสาร์ หรือวันอาทิตย์ จนสุดท้ายมาสรุปได้เป็นวันเสาร์ที่ 22 กันยายน 2555 ซึ่งตรงกับเดือนเกิดของแฟนด้วย และเลขสวยใช้ได้เลยทีเดียว ;)
สถานที่งานเช้า ผมเลือกที่โรงพยาบาลสงฆ์ เพราะเห็นว่าอยากจะทำบุญใหญ่ เพื่อเป็นสิริมงคลในการที่เริ่มต้นชีวิตคู่ ซึ่งเราไปจองสถานที่ในช่วงเดือน กุมภาพันธ์ 2555
ขอบอกว่าโรงพยาบาลสงฆ์เป็นสถานที่ยอดฮิตมากๆ ต้องมีการจองล่วงหน้าอย่างน้อย 4 – 6 เดือน (ผมแต่งเดือน 9 ไปจองตอนเดือน 2 ยังจองพิธีมงคลสมรสเดี่ยว (เพล) ไม่ทันเลยครับ) และที่สำคัญต้องไปจองเอง ไม่มีการรับจองทางโทรศัพท์ จองปุ๊ปจ่ายเงินปั๊ป จากนั้นก็ไม่ต้องติดต่ออะไรจนถึงวันงานเลยครับ (สบายมาก 555) ส่วนการรีวิวอย่างละเอียดจะรีวิวในตอนถัดไปนะครับ
สถานที่งานเย็น หรือ งานเลี้ยงฉลองมงคลสมรส ผมเลือกที่นันทอุทยานสโมสร กองทัพเรือ (เยื้องโรงพยาบาลธนบุรี ซอยอิสรภาพ 44) หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นหอประชุมกองทัพเรือ ตรงวัดอรุณ ซึ่งไม่ใช่นะครับ
ผมพยายามหาข้อมูล ดูรีวิวต่างๆ ของที่นี่ แต่ไม่มีใครมารีวิวเลยครับ ตอนที่ผมโทรจอง ห้องจัดเลี้ยง ชั้น 2 ซึ่งเป็นห้องเพดานสูงโล่ง
มีคนจองแล้ว เสียดายมากครับ แต่ผมก็จองเป็นคิวจองที่ 2 ไว้ เผื่อฟลุค (หมายความว่าถ้าคิวจองที่
1 มายกเลิก ผมก็จะได้เลื่อนจากคิวที่ 2 เป็นคิวที่ 1 เจ้าหน้าที่แจ้งอีกว่าถึงจะโอนเงินมัดจำมาก็ไม่รับ
ถ้าคิวที่ 1 ยังไม่ยกเลิก ซึ่งถือว่าเป็นข้อดีที่ทำให้ผู้จองสบายใจได้ว่าจะไม่โดนลัดคิว) สำหรับห้องจัดเลี้ยงชั้น 1 ไม่แนะนำครับ เนื่องจากมีเสาเยอะมาก และเพดานเตี้ย ดูแล้วไม่ค่อยโอเคเท่าไรครับ
เครดิต www.weddingsquare.com
แล้วผมก็ฟลุคจริงๆครับ ผมโชคดีมากๆ ที่คนจองคิวที่ 1 ไว้ขอยกเลิก ทางนันทอุทยานสโมสรจึงโทรศัพท์มาแจ้งผมว่าได้สถานที่เรียบร้อยแล้วให้เข้ามาคุยรายละเอียด และทำการมัดจำ ผมเลยรีบจัดการในทันที 555
ข้อดีของนันทอุทยานสโมสร คือ ห้องจัดเลี้ยง ชั้น 2 เพดานสูงโล่ง สวย เหมือนห้องจัดเลี้ยงในโรงแรม ที่จอดรถเยอะ เดินทางไม่ยากนัก และที่สำคัญการคิดราคาอาหารแบบเหมารวมเป็นโต๊ะๆ เช่น โต๊ะจีนราคาโต๊ะ 4,000 บาท (อาหารโต๊ะจีน+เครื่องดื่ม ไม่รวมแอลกอฮอล์+ตกแต่งสถานที่) ซึ่งเป็นราคาที่เบ็ดเสร็จไม่มีการคิดเพิ่มนั่นเพิ่มนี่ครับ หายห่วง สบายใจได้
จึงมัดจำไป 30% ของราคาทั้งหมดโดยคิดตามจำนวนโต๊ะ จากนั้นก็มีการนัดเพื่อมาชิมอาหาร (ประมาณ 4 – 5 อย่าง ไม่คิดเงินเพิ่มนะครับ) และเลือกรูปแบบซุ้มครับ ซึ่งรสชาติอาหารใช้ได้ และการจัดซุ้มก็ดูโอเคดีครับ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก ==> http://www.weddingsquare.com/185/
พรีเว็ดดิ้ง ผมไปดูมา 2 – 3 ร้าน แต่ยังไม่ถูกใจ จนสุดท้ายมาได้ร้านพรีเว็ดดิ้งที่เพื่อนป.โทใช้ ซึ่งอยู่แถวพุทธมณฑลสาย 4 คือ ร้าน Bestlovewedding แพ็คเกจราคาไม่แรงมาก มีทุกอย่างครบตามที่ต้องการ และที่สำคัญช่างแต่งหน้าทำผมฝีมือดีเลยครับ ยอมรับในฝีมือเค้าจริงๆ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก ==> http://www.bestloveweddingstudio.com/
การ์ด
และของชำร่วย ผมเลือกร้านที่เจเจมอล์ ซึ่งก็มีหลายร้าน
ราคาก็แตกต่างกันไปตามงบประมาณ ผมเลือกร้าน Green Wedding ครับ เพราะชอบของชำร่วยที่เป็นสมุดโน้ตที่ใส่ภาพคู่ลงไปได้ ผมขอแนะนำว่าควรเลือกร้านการ์ด
และของชำร่วยเป็นร้านเดียวกัน เพื่อที่ได้ขอส่วนลดเค้าได้
การ์ดพับ 3 ตอน
ของชำร่วย คือ สมุดโน้ตติดสแตมป์เป็นรูปคู่
แหวนหมั้น ก็ใช้ Connection ของเพื่อนแฟน แนะนำร้าน ห้างเพชรทองศรีโต๊ะกัง สาขาเซ็นจูรี่ ซึ่งพี่หญิง เจ้าของร้านคนสวย ใจดี พูดง่าย มีแบบให้เลือกมากมาย หรือสั่งทำตามแบบที่เราต้องการได้ ผมกับแฟนไม่ค่อยชอบเพชรกัน เลยไม่อยากเสียค่าใช้จ่ายในด้านนี้เยอะ จึงเลือกเพชรไม่ใหญ่มาก ใส่ได้ทุกโอกาส ดูรายละเอียดได้จาก ==> www.stkgold.com/
พานขันหมาก
ซึ่งผมได้ใช้บริการของเพื่อนแม่ผมครับ
ซึ่งคุณป้าเค้าไม่ได้รับทำเป็นอาชีพ ดังนั้นขั้นตอนนี้ผมอาจจะให้คำแนะนำไม่ค่อยได้ แต่เท่าที่เคยหาในข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต
ก็มีหลายเว็บที่รับสั่งทางออนไลน์เหมือนกันนะครับ หรือไม่ก็ที่ปากคลองตลาดครับ มีหลายร้าน
ป้ายชื่องานเช้า แฟนผมไปหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตเหมือนเดิม เดี๋ยวนี้การใช้วิธีเซิซในกูเกิลก็ช่วยเหลือได้มากแล้วครับ ร้านที่แฟนผมเลือก คือ ร้าน BerrymIxz Design เป็นป้ายขนาด 1 เมตร x 1 เมตร ราคา 800 บาท ไม่รวมค่าส่ง เพราะนัดไปรับของที่ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิตครับ
ป้ายพื้นสีเหลือง ตัดกับสีพื้นหลัง
(ไม่ทราบมาก่อนว่าสีผ้าจะเป็นสีชมพู แฟนผมได้เลือกสีกลางๆ ไว้ สรุปก็ออกมาสวยงามดีครับ)
(ไม่ทราบมาก่อนว่าสีผ้าจะเป็นสีชมพู แฟนผมได้เลือกสีกลางๆ ไว้ สรุปก็ออกมาสวยงามดีครับ)
ช่างภาพวันงาน ผมก็ใช้ Connection ตอนเรียนป.โทที่ราม
โดยเพื่อนของเพื่อนผมได้แนะนำลุงอู๊ดมาให้ ซึ่งลุงอุ๊ด เป็นช่างภาพอารมณ์ดี มีโรงเรียนสอนถ่ายภาพด้วย
และลุงอู๊ดได้ให้ความกรุณาผมอย่างมาก รับงานผมโดยทันที ขอบอกว่าลุงอู๊ดเป็นคนสนุกสนาน
เฮฮา ฝีมือดี ส่งงานตรงเวลา ดูรายละเอียดได้จาก ==> http://facebook.com/ lungoud หรือ Search คำว่า ลุงอู๊ด ดอทคอม ก็ได้ครับ
Presentation และเพลงที่เปิดในงาน ผมกับแฟนทำ Presentation เองอย่างง่ายๆ ด้วยการใช้รูปภาพมาร้อยเรียงกันตามเพลงที่เลือก ซึ่งสามารถทำได้ด้วยตัวเองผ่านโปรแกรมที่สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีจากอินเตอร์เน็ต เช่น ProShowGold เป็นต้น
ส่วนเพลงอื่นๆ ที่เปิดในงาน เช่น
ช่วงบ่าว-สาว เดินเข้างาน ช่วงตัดเค้ก ช่วงโยนดอกไม้
ก็จัดเตรียมแล้วแต่ที่ชอบได้เลย แต่อยากจะแนะนำว่าควรจะนำ CD หรือ VCD หรืออะไรก็ตามที่จะเปิดในงาน ไปลองเปิดดูกับเครื่องเล่นที่สถานที่จริงก่อนวันงานสัก 1 – 2 วัน
เพื่อให้แน่ใจว่าเปิดได้ ไม่มีปัญหานะครับ
ในส่วนของรีวิวแบบเจาะลึกทั้งงานเช้า, งานเย็น รวมถึงร้านพรีเว็ดดิ้ง ผมขอแยกรีวิวนะครับ จะได้อธิบายรายละเอียดได้ชัดเจน
สามารถติดตามรีวิวงานหมั้นกันได้นะที่นี่เลยครับ ==> รีวิว ตอนที่ 2
สามารถติดตามรีวิวงานหมั้นกันได้นะที่นี่เลยครับ ==> รีวิว ตอนที่ 2
No comments:
Post a Comment