เที่ยวสวนผึ้ง ไปเช้าเย็นกลับ

         เมื่อถึงช่วงหน้าหนาวปลายเดือนธันวาคม สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตหนึ่งที่ทุกคนต้องไป คือ สวนผึ้ง วันนี้จะมารีวิวเที่ยวสวนผึ้งในวันเดียว (ไปเช้า-เย็นกลับ ไม่ค้างคืน) กัน

เครดิต www.painaidii.com

        สวนผึ้ง เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดราชบุรี ห่างจาก กทม. ประมาณ 160 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 - 3 ชั่วโมง สามารถเดินทางได้หลากหลาย 

        ทั้ง 1) ทางถนนเพชรเกษม ผ่านนครปฐม ผ่านอำเภอโพธาราม เข้าสู่เมืองราชบุรี 
              2) ทางถนนบรมราชชนนี หรือ ปิ่นเกล้า-นครชัยศรี แล้วเข้าสู่นครปฐม ผ่านอำเภอโพธาราม 
                  เข้าสู่เมืองราชบุรี 
              3) ทางถนนพระราม 2 หรือ ธนบุรี-ปากท่อ เข้าสู่ถนนเพชรเกษมที่แยกวังมะนาว และเลี้ยวขวา

ซึ่งในครั้งนี้ได้ใช้เส้นทางถนนพระราม 2

        ก่อนที่จะรีวิวลงรายละเอียดแต่ละสถานที่ ขอสรุปแผนที่ที่จะเที่ยวให้ทราบกันคร่าวๆ โดยได้วางแผนการเดินทางตามนี้ คือ

         1) ทานมื้อกลางวันที่ครัวม่อนไข่
         2) แวะชมแกะที่ The Scenery Vintage Farm
         3) แวะชมบ้านหอมเทียน
         4) แวะกินกาแฟที่ Moai Coffee


    เริ่มออกเดินทางกันตั้งแต่ 8.30 น. โดยแวะกินกาแฟกันที่ Amazon ที่ปั๊ม ปตท. แถวแยกสาธุประดิษฐ์กันก่อน (คอนโดอยู่ตรงท่าน้ำสาธุประดิษฐ์) จากนั้นขับรถมุ่งหน้าเข้าสู่ถนนพระราม 2 ไปเรื่อยๆ มาเรียงๆ จนถึงแยกวังมะนาว เข้าเมืองราชบุรีประมาณ 11.00 น. 



         ด้วยความที่ตั้งใจจะไปกินมื้อกลางวันกันก่อนจึงขับผ่านสถานที่เที่ยวต่างๆ เพื่อไปลิ้มลองรสชาติอาหารที่ร้านครัวม่อนไข่ ร้านที่ขึ้นชื่อของสวนผึ้ง ซึ่งร้านนี้อยู่ไกลจากทางเข้าสวนผึ้งประมาณ 20 กิโลเมตร ถือว่าค่อนข้างไกลจากจุดท่องเที่ยวอื่นๆ ซึ่งจุดที่สังเกตคือจะต้องผ่านสวนผึ้งรีสอร์ทไปก่อน และแล้วประมาณ 11.45 น. ก็ถึงร้านกัน


ครัวม่อนไข่
ภาพจาก Facebook ของร้าน

จานที่เห็นเต็มๆ คือ ยำผักกูดทรงเครื่อง ราคาจานละ 150 บาท 
รสชาติจัดว่าดี สมกับเป็นเมนู Recommended

ส่วนจานที่เห็นแค่ครึ่งเดียว คือ เห็ดโคนผัดน้ำมันหอย ราคาจานละ 150 บาท
รสชาติกลมกล่อม เมนูนี้ก็เป็นเมนู Recommended เช่นกัน

ปลาคังลวกจิ้ม ราคาจานละ 150 บาท
เนื้อปลาสด ไม่คาว น้ำจิ้มซีฟู้ด รสจัดจ้านกำลังดี

แกงจืดปรุงรส ราคาชามละ 150 บาท
เพราะเข้าใจผิดคิดว่ารสชาดจะจืดๆ เหมือนแกงจืดเต้าหู้ไข่ แต่ผิดคาด
ดันใส่ผัดกาดดอง และน้ำผัดกาดดอง รสออกเปรี้ยว จากส่วนตัวไม่ค่อยชอบเมนูนี้เท่าไร

ปิดท้ายด้วยของหวาน โดยใช้สิทธิ์ Galaxy Gift สำหรับคนที่ใช้มือถือซัมซุง
ลดราคาจาก 55 บาท เหลือ 30 บาท รสชาติธรรมดา ไม่ดี และไม่แย่

      เมื่ออิ่มท้องกับเป้าหมายแรกแล้ว ก็เดินทางไปต่อที่เป้าหมายที่สอง คือ The Scenery Vintage Farm เป็นสถานที่ยอดฮิตที่ใครมาสวนผึ้งแล้วต้องมาให้ได้ ด้วยการตกแต่งสไตล์หมู่บ้านชาวไร่แบบอังกฤษ มีฟาร์มแกะ สามารถให้อาหารแกะได้ มีมุมถ่ายรูปสวยๆ สไตล์วินเทจ มีซุ้มเล่นเกมส์ต่างๆ ร้านอาหาร และร้านที่ขายของที่ระลึก

 เดอะซีนเนอรี่
ภาพจาก Facebook ของร้าน

        เดอะซีนเนอรี่ อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอสวนผึ้ง ประมาณ 9 กิโลเมตร เปิดทุกวัน โดยวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 10.00 - 18.00 น. วันเสาร์ - วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.30 - 18.30 น. มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม สำหรับผู้ใหญ่ เสีย 50 บาท เด็กต่ำกว่า 120 ซม. เสีย 30 บาท พิเศษตรงที่สำหรับผู้สูงอายุ คือ อายุ 60 ปีขึ้นไป เพียงโชว์บัตรประชาชน จะเข้าชมฟรี


        บังเอิญช่วงวันที่ไป (27/12/2014) มี Promotion ของ Galaxy Gift พอดี ให้กดรับสิทธิ์เข้าชมฟรี ก็จัดไปอย่าให้เสีย 555 และยังสามารถนำตั๋วเข้าชมไปแลกหญ้า 1 กำ เพื่อให้อาหารแกะได้ มันเสียดายที่เพิ่งมารู้หลังจากกลับมาถึง กทม. เพราะมาอ่านที่ตั๋ว แป่ว!!! นี่คือผลของการไม่ดู สังเกต หรืออ่านอะไรให้รอบคอบก่อน เศร้า T_T


มุมถ่ายรูปในเดอะซีนเนอรี่

 


 


       ถึงเวลาเดินทางไปที่เป้าหมายที่สาม นั่นก็คือ บ้านหอมเทียน ซึ่งเป็นร้านที่ทำเทียนหอม สำหรับซื้อเป็นของฝากหรือของที่ระลึก ซึ่งไม่ได้มีแต่ร้านทำเทียนเพียงอย่างเดียว แต่มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ และร้านขายของที่ระลึกอื่นๆ ด้วย โดยทำสไตล์คล้ายๆ กับเพลินวานที่หัวหิน มีของเก่าๆ โบราณๆ มาจัดตกแต่งสถานที่ และมีเทียนขนาดใหญ่ทำเป็นตัวการ์ตูนให้ได้ถ่ายรูปกันสนุกสนาน

บ้านหอมเทียน
ภาพจาก Facebook ของร้าน

      บ้านหอมเทียน อยู่ริมถนนกิโลเมตรที่ 33 ทางที่ไปอำเภอสวนผึ้ง เปิดทุกวัน โดยวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 08.30 - 19.00 น. วันเสาร์ - วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.30 - 20.30 น. มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม 50 บาท สามารถนำตั๋วเข้าชมไปแลกเทียนหอมเป็นของที่ระลึกได้ 1 ชิ้น บังเอิญอีกแล้วที่มี Promotion ของ Galaxy Gift ให้กดรับสิทธิ์เข้าชมฟรี ก็จัดไปอีก 555 ของฟรีอีกแล้ว อิอิ

มุมถ่ายรูปที่บ้านหอมเทียน








       และแล้วก็มาถึงเป้าหมายสุดท้ายของทริปนี้ คือ ร้าน Moai Coffee อ่านว่า โมอาย คอฟฟี่ ร้านกาแฟที่ตกแต่งด้วยรูปปั้นหินหน้าคน ที่จำลองแบบมาจากรูปปั้นหินโมอายที่เกาะอีสเตอร์ อุทยานแห่งชาติลาปานุย ประเทศชิลี

Moai Coffee



        ร้านนี้ก็มี Promotion ของ Galaxy Gift ให้กดรับสิทธิ์สามารถซื้อเครื่องดื่มในราคา 40 บาท จาก 80 บาท ก็จัดไปอีก คุ้มเลย ฮ่าๆๆๆ ครั้งแรกนี้ลองสั่งเอสเพรสโซ อิตาเลียนโน กับเยเมน มอคค่า ส่วนตัวขอบอกตรงๆ เลยว่ารสชาติของกาแฟแย่มาก ถ้าให้ซื้อราคาเต็ม หรือ ให้กลับมาเที่ยวสวนผึ้งอีก ก็จะไม่แวะกินกาแฟที่ร้านนี้แล้ว ร้านนี้มีจุดสนใจอยู่ที่แต่งร้านให้ดูแปลกกว่าร้านอื่นๆ แค่นั้น และเชื่อว่าหากหลายคนไปลองชิมจะเห็นเช่นเดียวกัน ฮาาาาา 

         ถึงเวลากลับบ้าน ก็ขับรถออกจากสวนผึ้งเพื่อกลับ กทม. เวลาประมาณบ่าย 3 โมง โดยใช้เส้นทางกลับต่างจากขามา คือ ใช้เส้นถนนเพชรเกษม แล้วก็พบว่าระยะทางใกล้กว่ามาก แต่รถก็ติดมากเช่นกัน กว่าจะถึง กทม. ก็ประมาณ 6 โมงเย็น จบทริปนี้อย่างเหนื่อยล้านิดหน่อย



Chanpit Chirith

YOU MIGHT ALSO LIKE

No comments:

Post a Comment

SUBSCRIBE