ผ่าตัดหุ้น ตอน ต้องขาดทุน ต้องขาดทุน ต้องขาดทุน

ที่มา :  https://www.facebook.com/ผ่าตัดหุ้น

Course พี่สอนน้องลงทุน by ผ่าตัดหุ้น


A : ต้องขาดทุน ต้องขาดทุน ต้องขาดทุน
B : อะไรของพี่ ไม่ยอมสอนวิธีซื้อหุ้นสักที
A : ใจเย็นๆ พี่แค่อยากรู้ว่า เราน่ะ พร้อมที่จะขาดทุนหรือยัง
B : อะไรนะพี่ ขาดทุน
A : ก็เออน่ะสิ ขาดทุน น้องคงเคยได้ยิน ว่ากฏข้อแรกของการลงทุนคือ อย่าขาดทุน ส่วนกฏข้อที่สองคือ ให้กลับไปดูข้อแรก

B : ใช่พี่
A : น้องคิดว่ามันทำได้มั้ย
B : ไม่แน่ใจอ่ะพี่
A : ตรงนี้มีคนเข้าใจผิดกันมากเลย อย่าขาดทุน ในที่นี้หมายถึง การดูแลพอร์ตการลงทุนในระะยาวให้ไม่ขาดทุนและมีกำไรสม่ำเสมอ แต่คนมักคิดว่า อย่าขาดทุนที่เขาว่ากันนั้น คือ ห้ามขาดทุนเลยในแต่ละครั้งของการลงทุน ทำให้น้องมักได้ยินคนที่ติดดอยบอกว่า ไม่ขาย เพราะถ้าขายก็ขาดทุน ไม่ขายสิ ไม่ขาดทุน ซึ่งมันไม่ใช่เลย การขาดทุนคือส่วนหนึ่งของระบบการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนทางพื้นฐานหรือทางเทคนิค เข้าใจแล้วนะ
B : ครับพี่ แล้วไอ้ต้องขาดทุนของพี่เนี่ย มันจะถึงเจ๊งมั้ยพี่ 55
A : อะไรของเอ็งวะ เดี๋ยวไม่สอนเลย
B : ขอโทษคร้าบ
A : เวลาจะลงทุนทางเทคนิคเนี่ย เด็กเทคนิคเขาจะมีการซื้อประกัน
B : พี่นี่ไปใหญ่แล้ว ลงทุนต้องซื้อประกัน
A : ประกันความเสี่ยงเฟร้ยยยยยยย ซึ่งมันก็คือ การที่เรารู้ว่า แต่ละครั้งที่ลงทุน เราจะเสียหรือขาดทุนได้เท่าไหร่ ก็เหมือนกับการทำประกันไง
B : แล้วทำไงอ่ะพี่
A : ก็ด้วยการคิด Position Sizing หรือจำนวนหุ้นที่ซื้อได้ ที่จะไม่ขาดทุนเกินกว่าที่Limit ไว้ ซึ่งเวลาจะคิดพวกนี้ได้มันต้องมี จุดที่จะซื้อ จุดที่จะหนี เงินที่พร้อมจะเสีย ต่อให้ไม่มีความรู้เรื่องจุดซื้อ จุดหนีเลยเนี่ย แต่ถ้าคิด Position Sizing ได้มันก็จะไม่เสียมากกว่าที่เราคิด แต่ถ้ามีความรู้เรื่องจุดซื้อที่ดี จุดหนีที่เหมาะสม ความเสี่ยงมันก็จะลดลงไปได้อีก ซึ่งเดี๋ยวพี่สอนทีหลังนะ
B : พี่ๆ พี่ไม่เห็นพูดถึง ราคาเป้าหมายเลย เห็นที่ไหนก็บอกว่าต้องมีเพื่อคิด RR อ่ะพี่
A : อ๋อ ราคาเป้าหมาย เพื่อเอาไว้คิด Risk Reward Ratio พี่ไม่เน้นมากนะ จะใช้แนวต้าน ,Fibonacci target, Price/Chart pattern ก็ได้ พี่ไม่อยากให้ยึดติดมาก การยึดติดในราคาเป้าหมายมากๆ เวลาที่เราปล่อยให้หุ้นมันวิ่ง แต่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดทำให้ราคาลง กราฟพัง เรามักจะไม่ขายตามวินัย เดี๋ยวมีสอนน่า เอาวิธีประกันความเสี่ยงไปก่อนนะ พี่ใช้วิธีง่ายๆ 2 วิธี
- Fixed Dollar Risk
ง่ายๆคือ การเทรดครั้งนี้เรายอมเสียเงินได้กี่บาท เช่นยอมเสีย 5000 บาท ก็เอา เงินที่เสียได้ /(ราคาซื้อ-ราคาหนี) จะได้จำนวนหุ้นที่จะซื้อ ตัวอย่าง ยอมเสียได้ 5000 บาท และจะซื้อหุ้นที่ราคา 20 บาท แต่ถ้าผิดทางมันลดลงถึง 18 บาท แล้วจะขาย Stop Loss
แปลว่าจะซื้อหุ้นได้ 5000/(20-18) = 2500 หุ้น เป็นเงิน 50,000 บาท
ถ้าผิดทางมันลดลงไปถึง 18 บาท น้องจะเสีย 5000 บาท
- Fixed Fractional
โดยคิดว่าการเทรดครั้งนี้ จะยอมเสียกี่เปอร์เซนต์เมื่อเทียบกับเงินของพอร์ต เช่นน้องใช้ 2% Rule คือ การเทรดแต่ละครั้งจะยอมเสียแค่ 2% ของ Port follio  เวลาคิดก็คือ
จำนวนหุ้นที่ซื้อได้ =(0.02xเงินในพอร์ต)/(ราคาซื้อ-ราคาหนี) เช่นพอร์ตรวมมีเงิน 100000 บาท
ยอมเสีย 2% ราคาซื้อ 20 ราคาหนี 18 ก็เข้าสูตรเลย (0.02 x 100000)/(20-18) = 1000 หุ้น
หรือ 20,000 บาท แปลว่าพอร์ตน้องมีเงิน 100,000 ไม้นี้ถ้าผิดทางจะเสีย2% คือ 2000 บาท
มองดีๆคือ คิด Position Sizing จะกันไม่ให้น้อง Overtrade
และประกันว่าพอร์ตน้องจะไม่พัง จริงมั้ย


ผ่าตัดหุ้น ✂️✂️


ตอนที่ 1 https://chanpitchairith.blogspot.com/2016/11/Surgeon-001.html
ตอนที่ 2 https://chanpitchairith.blogspot.com/2016/11/Surgeon-002.html
ตอนที่ 3 https://chanpitchairith.blogspot.com/2016/11/Surgeon-003.html


✂️

Chanpit Chirith

No comments:

Post a Comment

SUBSCRIBE