18 แนวคิดสู่ แนวทางพิชิตหุ้น โดย สิปปกร ขาวสอาด

ที่มา : https://www.facebook.com/sippakornk

แนวคิดนี้เป็นแนวทางที่ควรนำไปปฏิบัติเพื่อการลงทุนที่ประสบผล ผมเองได้วางกรอบแนวคิดบนแนวทางของประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้จากตลาดทุน ซึ่งผมได้กลั่นกรองออกมาเป็นกลวิธี ใช้เพื่อการเล่นหุ้นอย่างชาญฉลาดต่อไปครับ

1. จงให้ความสำคัญอย่างมาก ๆ สำหรับการซื้อหรือขายหุ้นแต่ละครั้ง ดั่งที่รู้ ๆ กันอยู่ว่าการลงทุนในตลาดหุ้นนั้นมีความเสี่ยงค่อนข้างสูง ดังนั้นการพิถีพิถันต่อการลงทุนไม่ว่าจะเป็นฝั่งซื้อหรือฝั่งขายทุกครั้ง ก่อนตัดสินใจที่จะเข้าออกควรต้องศึกษาในตัวหุ้นให้เข้าถึงอย่างลึกซึ้งถึง ความเป็นมาเป็นไป นั้นเท่ากับว่าเราให้ความสำคัญกับเม็ดเงินที่ลงทุนหรือลงทุนไปแล้ว ย่อมเป็นสิ่งที่ดี

2.จงคิดเสมอว่าถ้าจะซื้อหุ้นหากจะเลือกหุ้นเล็ก หรือหุ้นตัวใหญ่นั้นย่อมมีความสำคัญเท่าเทียมกัน เพียงแต่ว่าหุ้นตัวเล็กหรือหุ้นตัวใหญ่ที่จะให้ผลตอบแทนมากกว่ากัน นั้นเท่ากับว่าความสามารถในการทำกำไรต่อหุ้นตัวเล็กหรือตัวใหญ่ต่างหากที่มี ความสำคัญที่สุด จึงควรมองที่ความเป็นไปได้หากเข้าซื้อหุ้นตัวใหญ่หรือตัวเล็ก ตัวใดที่จะทำให้เกิดกำไรได้

3. จงอย่าเชื่อทุกอย่างที่ได้ยิน จงชินชากับวาจาที่ว่าหุ้นตัวนั้นดีตัวนี้เลว หากตราบใดที่เราไม่สามารถค้นคว้าหาข้อมูลที่สามารถอ้างอิงได้ว่า สิ่งนั้นคือความจริง หรือเป็นเรื่องเท็จ การลงทุนที่รู้ชัด รู้จริง รู้ลึก และรู้ก่อนใครย่อมได้เปรียบผู้อื่น เพียงแต่ว่าข้อมูลทุกเนื้อหา เนื้อแท้ที่เป็นจริงนั้นเราต้องสามารถรับรู้อย่างชัดเจน

4. เมื่อกล่าวคำว่า "เล่นหุ้นต้องมีกำไร” จงหมายความตามนั้นจริง ๆ นั้นหมายถึงก่อนเล่นหุ้น ก่อนซื้อหุ้นทุกครั้งทุกรอบต้องไตร่ตรอง พิจารณาทุกแง่ทุกมุม ไม่พลีพลาม หรือด่วนตัดสินใจโดยอารมณ์เป็นมูลเหตุ ความรอบครอบ รอบรู้ จะสามารถทำให้เรา มีความมั่นใจพร้อมจะเปล่งวาจาว่า “เล่นหุ้นต้องมีกำไร”

5. เมื่อประสบกับ สภาพของการขาดทุน ทุกครั้งทุกรอบ ต้องรู้จัก ตั้งสติ มีสมาธิ ไม่แกว่งจนตนเองไร้ความเชื่อมั่น และมีภาวะที่จิตพกพร่อง เพราะนั้นเท่ากับว่า ความสามารถลงทุนในอนาคตจะสูญสิ้น ขาดหลักคิด หลักการ หลักของการลงทุน จงสร้างความพร้อมให้รับได้ทุกสถานการณ์ทั้งยามหุ้นขึ้นหรือหุ้นลง เพื่อแสวงหาสิ่งที่ดีกว่าต่อไป

6. ก่อนจะตัดสินใจถือครองหุ้น จงมั่นศึกษาในหุ้นตัวนั้น ๆ ให้มากเพียงพอเสียก่อน โดยเฉพาะควรพิจารณาหลักใหญ่ ๆ เช่น ดูผลการดำเนินงานทั้งอดีต ปัจจุบัน และคาดการณ์อนาคต มีค่าพีอีเดโชระดับใด มองผลตอบแทนในแง่ปันผลที่ผ่านมาสามารถให้มากน้อยเพียงใด ดูหนี้สินต่อทุน ดูโครงสร้างผู้ถือหุ้น ตรวจเช็คการดำเนินธุรกิจมีอุปสรรคมีจุดดีจุดเด่นจุดด้อยอย่างไร

7. จงเชื่อมั่นในตัวตนของตัวเอง เล่นหุ้นแม้ต้องอิงปัจจัยหลายต่อหลายเรื่อง ต้องฟัง ต้องอ่าน ต้องเสพข้อมูล ต้องแสวงหาข่าวสาร แต่สุดท้ายตัวของตัวเองนั้นละ จะเป็นผู้ที่ต้องตัดสินใจ ผิดหรือถูก นั้นเป็นเรื่องที่ตัวเองจะรับรู้ และยอมรับ

8. อย่าหัวเราะเยาะความฝัน และความคิดของผู้อื่นเป็นเด็ดขาด เพราะการเล่นหุ้น ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นล้วนแล้วเป็นเรื่องในอนาคต ทุกคนมีสิทธิคิดมีคิดฝัน ถึงความเป็นไปในอนาคต ดังนั้นตัวเราเองก็ดี หรือผู้อื่นเองก็ตามทุกคนล้วนมีความฝัน แม้ความฝันนั้นจะเป็นจริงหรือไม่ มันก็เป็นจิตนาการของเขาผู้นั้น เพียงแต่เราเองนั้นละต้องสร้างความฝันบนความเป็นจริงที่ควรสัมผัสได้

9. จงอย่ารักหุ้น อย่าทะนุถนอมหุ้น หรือกอดหุ้นไว้โดยที่ไร้ผลตอบแทน และสร้างความเจ็บปวด ควรคิดเสมอว่าหากใดหุ้นที่ซื้อไว้หรือมีไว้เมื่อหุ้นตัวนั้นไม่ได้สร้างให้ สินทรัพย์เพิ่มพูน มีแต่วันจะถดถอย เราควรตัดสินใจสละขายทิ้ง เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจจะต้องล่มจมหรือมูลค่าราคาหุ้นต้องหดหายไป มันเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย

10. ในเหตุการณ์ที่สับสน สรุปหนทางแนวโน้มทิศทางของหุ้นไม่รู้จะเป็นเช่นใด ควรวางตัวสงบนิ่ง เฝ้ารอคอยให้กระแสน้ำที่เชี่ยวกราดเริ่มอ่อนแรงลงพอมองเห็นทิศทางแนวโน้มของ หุ้นได้ ตอนนั้นค่อยว่ากันใหม่ เพราะการเล่นหุ้นในยามที่หุ้นผันผวนไร้ทิศทางนั้นเท่ากับว่าเรากำลังสร้าง ความเสี่ยงให้กับตัวเองอย่างมากทีเดียว

11. อย่าตัดสินใจเล่นหุ้นปั่น เพราะเพียงแค่ความอยากเอามันเท่านั้น เพราะหุ้นปั่นที่มีการสร้างเกมขึ้นมานั้น ได้มีการหยิบยกทั้งเหตุทั้งผลมาอ้างอิงประกอบโฆษณาชวนเชื่อ และมีการกระชากลากหุ้น เพื่อให้นักเลงหุ้นเกิดการคล้อยตามในความสนุกความตื่นเต้น หากเราตัดสินใจเล่นหุ้นปั่นโดยขาดหลักคิดหวังเพียงความสนุก สุดท้าย ความเสียหาย การขาดทุนจะมาเยือน

12. จะซื้อหุ้นให้เร็วหรือให้ช้าไม่สำคัญ ความสำคัญอยู่ที่ ต้องคิดให้อย่างรอบคอบ การขับเคลื่อนของราคาหุ้นในตลาดทุนนั้น เราจะพบอยู่บ่อยครั้ง เดี๋ยวขึ้นเร็วลงเร็ว บางครั้งก็มักคืบคลานอย่างช้า ๆ ดังนั้นการตัดสินใจซื้อขายหุ้นคล้อยตามบนภาวะของตลาดก็อาจไม่ใช่เรื่องที่ ถูกนัก สาระสำคัญอยู่ที่ว่าทุกครั้งทุกรอบควรตัดสินใจคิดให้รอบคอบก่อนเข้าซื้อเข้า ขายน่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุด

13. จงจำไว้ว่า สองสิ่งที่ยิ่งใหญ่ สำหรับการเล่นหุ้นคือ “ซื้อแล้วหุ้นต้องขึ้น” “ขายแล้วหุ้นต้องลง” ตราบใดที่เราซื้อหุ้นแล้วหุ้นลงนั้นย่อมทำให้เรามีความรู้สึกที่ผิดเพี้ยนใน การเล่นหุ้นทันที ในขณะเดียวกันหากขายหุ้นแล้วหุ้นขึ้นอาการเสียดายก็มักเกิดขึ้นเช่นกัน หากตรงกันข้าม เมื่อซื้อหุ้นหรือขายหุ้นถูกทาง การเล่นรอบของหุ้นมันจะถูกจังหวะ เล่นจะทำให้เล่นหุ้นได้อย่างสนุก

14. จงคิดเสมอว่า หุ้นที่มีพื้นฐานดี ต้องมีฐานะการเงินดี ผลการดำเนินงานดี ปันผลดี มีการบริหารการจัดการที่ดี เป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องดี ส่วนหุ้นปั่น คือหุ้นที่ไร้พื้นฐาน ปัจจัยด้านการเงินแย่ บริษัทขาดทุน ทำธุรกิจล้มเหลว หนี้สินท่วมตัว ดังนั้นเมื่อเราจะเล่นหุ้นที่มีพื้นฐาน หรือหุ้นปั่น เราเองก็ควรรู้จุดยืนของเราว่าสุดท้ายควรทำตัวอย่างไร

15. เมื่อพ่ายแพ้ เจ็บปวด และ ขาดทุนหุ้น จงอย่าสูญเสียบทเรียนไปโดยเปล่าประโยชน์ สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต บางครั้งเป็นเรื่องที่เศร้า ทุกข์ แต่เราเองก็สามารถนำสิ่งเรานั้นมาเป็นกรณีศึกษา เป็นมูลฐานแห่งการเรียนรู้ ปรับปรุงตัวเพื่อสร้างความเข้มแข็ง พร้อมสู้กันต่อในอนาตคให้ได้มาในสิ่งที่ตนเองแสวงหาบนความไม่ประมาท

16. จงพยายามเข้าถึง และจดจำ ความเป็นมาเป็นไปของหุ้นที่สนใจ ให้ลึกซึ้ง เรื่องราวของหุ้นในแต่ละตัวมีความเป็นมาเป็นไปด้วยกันทั้งสิ้น และหุ้นหลาย ๆ ตัวมักมีวงจรการดำเนินธุรกิจของตนเสมอ และหุ้นบางตัวก็มักมีพฤติกรรมการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นซ้ำ ไปซ้ำมา ดังนั้นหากเราสามารถเข้าถึง จดจำพฤติกรรมของหุ้นได้ นั้นเท่ากับเราจะได้เปรียบต่อการลงทุน อย่างน้อยก็สามารถจับรอบจับจังหวะได้ถูกต้อง

17. จงอย่าให้ขาดทุนขยายวงกว้างจนรับไม่ไหว เรื่องที่สำคัญน่าเป็นห่วงที่สุดของการเล่นหุ้นคือ การที่นักเล่นหุ้นไม่สามารถกำหนดหรือสกัดกั้นการขาดทุนในกรอบที่จำกัดได้ ไม่รู้จักการตัดขายแต่ต้นลม คิดเพียงหากมีหุ้นถือหุ้นไม่ขายไม่ขาดทุน สุดท้ายภาวะการขาดทุนจะขยายเป็นวงกว้างจนรับกันไม่ไหว

18. ทันทีที่รู้ตัวว่าทำผิดพลาด อย่าปล่อยให้กาลเวลาผ่านไป ต้องลงมือแก้ไขปรับพอร์ตให้ทันถ่วงที ใครที่เล่นหุ้นหากซื้อขายหุ้นผิดจังหวะผิดตัว ย่อมถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา เพียงแต่ว่าเมื่อผิดพลาดไปแล้ว การแก้ไข การปรับเปลี่ยนต้องกระทำให้ทันเวลา มิเช่นนั้นแล้วอาจสายเกินกว่าจะแก้ได

ลองนำแนวคิดนี้เป็นแนวทางเพื่อการลงทุนที่ถูกที่ควรต่อไปนะครับ ผมเองหวังเป็นอย่างยิ่งว่า สิ่งที่ท่านได้รับรู้รับทราบจากบทความ “18 แนวคิดสู่ แนวทางพิชิตหุ้น”นี้ น่าจะยังผลให้ท่านสามารถปรับวิธีปรับแนวคิดเพื่อก้าวสู่แนวทางที่สำเร็จกับ การลงทุนต่อไปครับ

Chanpit Chirith

No comments:

Post a Comment

SUBSCRIBE